ภาพที่ 3 เมืองโบราณหริภุญไชย ถ่ายเมื่อ 8 ธันวาคม 2520
ที่มา: สรัสวดี อ๋องสกุล, ชุมชนโบราณในแอ่งเชียงใหม่-ลําพูน)
กรุงเทพฯ : อมรินทร์บุ๊คเซน็เตอร์, 2543), 53.
เมื่อสร้างพระนครเสร็จแล้วเกล็ดหอยนั้นก็หายไป(1) ซึ่งในจามเทวีวงศ์ได้ระบุสัณฐานของเมืองไว้ชัดเจนว่า มีสัณฐานเป็นสังขปัตร ทั้งด้านยาวและด้านกว้างโดยรอบทั้งสิ้นเป็น 1,550 วา(2)
ส่วนกําแพงเมืองนั้น ได้มีหลักฐานปรากฏในตํานานสองฉบับคือ ตํานานชินกาลมาลี ปกรณ์และตํานานพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งอธิบายโดยละเอียดว่าในสมัยของพระเมืองแก้วได้ทรงบูรณะและสร้างกําแพงเมืองเพิ่มเติมดังนี้คือ ในปี พ .ศ .2060 พระเมืองแก้วได้ก่อกําแพงศิลาแลง โดยเริ่มตั้งแต่ทิศตะวันตกคือ ประตูมหาวัน ในฤดูแล้ง ยามแตรค่ําวันพฤหัสบดี ขึ้น 5 ค่ํา เดือนยี่ ปีชวด(3)
โดยในตํานานพระธาตุหริภุญชัยนั้นได้กล่าวโดยละเอียดดังนี้ พระเมืองแก้วทรงสร้างกําแพงเมืองและประตูเมืองกลม 1,596 วา สร้างเมกเวียง (กําแพง) 1,743 เมก กว้าง 250 วา ยาว 250 วา หินแลง 56,780 ก้อน ดินและอิฐ 6,385,000 ก้อน ประตูขัวถึงประตูท่าข้าม 182 วา ประตูท่าข้ามถึง ประตูลี้ 250 วา 3 ศอก ประตูลี้ถึงประตูมหาวัน 2,490 วา ประตูมหาวันถึงประตูช้างสีหัวเวียง 345 วา ประตูหัวเวียงถึงประตูท่านาง 175 วา ประตูท่านางถึงประตูเรียงเรือ 180 วา และประตูเรียงเรือถึง ประตูหัวขัว 162 วา 1 ศอก(4)
ต่อมาในสมัยของพระเมืองอ้ายโอรสพระเมืองแก้วได้ทรงสร้างขัวละพูนด้วยเงิน 10,000 เงิน ราวปี พ.ศ. 2069(5) ลักษณะของเมืองโบราณหริภุญไชย ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเข้ามาทางทิศ เหนือคือ ประตูช้างสี ผ่านเข้ามายังบริเวณกลางเมืองนั้น มีลักษณะเป็นเนินหลังเต่า โดยมีการกําหนดแกนหลักในแนวเหนือ-ใต้ คือแนวถนนอินทยงยศในปัจจุบัน แกนหลักอยู่ในแนวตั้ง
เริ่มจากประตูช้างสีด้านทิศเหนือ ผ่านกลางเมืองลงมาถึงประตูลี้ด้านทิศใต้ ซึ่งถือเป็นแกนสําคัญ เนื่องจากสองข้างทางของแนวแกนสําคัญนี้ เป็นที่ตั้งของสถานที่สําคัญของเมืองเช่น วัดพระธาตุหริ ภุญชัยและวัดสะดือเมืองเก่า แกนรองลงมาเป็นแนวแกนนอนในทิศตะวันออก-ตะวันตก ในลักษณะตัดกับแนวตั้ง
เริ่มตั้งแต่ประตูมหาวันด้านทิศตะวันตกผ่านไปตามถนนมุกดาและถนนไชย มงคล ไปถึงท่าน้ำด้านทิศตะวันออก (ภาพที่ 2) บริเวณที่แกนตั้งและแกนนอนตัดกัน เป็นจุดกึ่งกลางเวียงเกิดการแบ่งพื้นที่ในเวียง ออกเป็น 2 ตอน โดยมีแนวแกนนอนเป็นเขตแบ่งแยกคือ ตอนเหนือ ตั้งแต่แนวแกนนอนจากถนน มุกดา ถนนไชยมงคลขึ้นไปทางเหนือถึงประตูช้างสี เป็นพื้นที่สําคัญสูงสุด ลักษณะกายภาพเป็น เนินหลังเต่า บริเวณนี้จึงเป็นที่ตั้งของวัดสําคัญคือ วัดพระธาตุหริภุญชัย คุ้มเจ้า ส่วนตอนใต้ ตั้งแต่แนวแกนนอนจากถนนมุกดา ถนนไชยมงคลลงมาทางใต้ถึงประตูลี้ เป็นพื้นที่อันดับรอง ลักษณะ กายภาพเป็นพื้นที่ลาดต่ํา บริเวณนี้ในสมัยหริภุญไชย เป็นที่อยู่ของเสนาบดี เจ้าชั้นรอง พระคลัง สมบัติ โรงช้าง โรงม้า(6)
-------------------------------------------------------------------
1 พระพุทธพุกาม และพระพุทธญาณ, ตํานานมูลศาสนา แปลโดย สุด ศรีสมวงศ์ และ พรหม ขมาลา. พิมพ์ครั้งที่ 2. (เชียงใหม่ : นครพิงค์การพิมพ์, 2513. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานทําบุญ ครบร้อยวันศพ นายหน่อ ชุติมา ณ บ้านเลขที่ 15 ถนนท่าแพ ซอย 5 อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 7 มิถุนายน 2513), 145-146.
2 พระโพธิรังสี, จามเทวีวงศ์ (กรุงเทพฯ : มิตรนราการพิมพ์, 2510), 24-25.
3 พระรัตนปัญญาเถระ,ชินกาลมาลีปกรณ์ แปลโดย ร.ต.ท. แสง มนวิทูร ,(ม.ป.ท., 2510. พิมพ์เป็นอนุสรณ์แด่ นายกี นิมมานเหมินท์ เนื่องในวันเปิดตึกคนไข้พิเศษ พฤษภาคม 2510), 145.
4 ตํานานพระธาตุหริภุญชัย, (ม.ป.ท., 2505. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระพิจิตรโอสถ (รอด สุตันตานนท์) ณ เมรุวัดกู่เต้า จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2505), 51.
5 เรื่องเดียวกัน, 52.
6 สรัสวดี อ๋องสกุล, ชุมชนโบราณในแอ่งเชียงใหม่-ลําพูน, 53-54.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น